ข้อความต้อนรับ

ยินดีต้อนรับค่ะ ชม blog นี้ โชคดีตลอดปี ตลอดไปนะจ๊ะ

วันศุกร์ที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2554

คลิป สึนามิ ถล่มญี่ปุ่น Tsunami Shocked in Japan_1




เกิดแผ่นดินไหว 8.9 ริคเตอร์ ในญี่ปุ่น ชาวกรุงโตเกียววิ่งแตกตื่นลงมาจากอาคาร สึนามิกวาดรถอาคารลงทะเล เตือนอาจสูง 10 เมตร เครือข่ายโทรศัพท์ในโตเกียวล่มไฟดับ คาดตายอย่างน้อย 1 บาดเจ็บราว 30 คน
                 (11มี.ค.2554) เกิดแผ่นดินไหววัดแรงสั่นสะเทือนได้ 8.9 ริคเตอร์  ที่อาคารหลายแห่งในกรุงโตเกียวของญี่ปุ่น สามารถรับความรู้สึกถึงแรงสั่นสะเทือนได้ ประชาชนพากันวิ่งหนีออกจากอาคารด้วยความตื่นตระหนก นอกจากนี้ ยังเกิดคลื่นยักษ์สึนามิพัดถล่ม ส่งผลให้เรือหลายลำพุ่งชนชายฝั่ง และกวาดเอารถยนต์บนถนน ในเมืองชายฝั่งลงไปในน้ำด้วย ที่เมืองมิยางิ ที่อยู่ชายฝั่งของเกาะฮอนชู มีรายงานผู้บาดเจ็บแล้วหลายคน แต่ยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตในขณะนี้ ภาพจากโทรทัศน์ ได้แสดงให้เห็นน้ำสายน้ำที่กำลังท่วมเป็นบริเวณกว้าง
แผ่นดินไหวครั้งนี้ เกิดขึ้นเมื่อช่วงบ่าย ทำให้อาคารหลายแห่งในกรุงโตเกียว ที่ได้ชื่อว่ามีประชากรอาศัยอยู่มากที่สุดถึง 30 ล้านคน สั่นสะเทือน มีรายงานเหตุเพลิงไหม้อย่างน้อย 6 แห่ง ในกรุงโตเกียว ซึ่งขณะนี้ระบบรถไฟใต้ดินได้ถูกระงับบริการโดยสิ้นเชิง มีเสียงไซเรนดังกระหึ่มทั่วเมือง
สำนักงานสำรวจทางธรณีวิทยา ระบุว่า จุดที่เกิดแผ่นดินไหว อยู่ห่างไปทางตะวันออกเฉียงเหนือของกรุงโตเกียวราว 382 กิโลเมตร ซึ่งญี่ปุ่นตั้งอยู่ในบริเวณที่เรียกว่า วงแหวนแห่งไฟที่เป็นศูนย์กลางของภูเขาไฟ และแผ่นดินไหว ขณะที่กรุงโตเกียว ได้ชื่อว่า เป็นหนึ่งในเมืองที่ตั้งอยู่ในจุดที่อันตรายที่สุด เนื่องจากตั้งอยู่บนจุดที่มีการบรรจบกันของรอยเลื่อน 3 แห่งคือ ยูเรเซีย , แปซิฟิก และฟิลิปปินส์ ซี
หลังเกิดแผ่นดินไหว มีการออกคำเตือนสึนามิ ทั้งในญี่ปุ่น ไต้หวัน รัสเซีย หมู่เกาะมาเรียน่า ฟิลิปปินส์ เกาะกวม หมู่เกาะมาแชลส์ อินโดนีเซีย ปาปัว นิวกินี นาอูรู ไมโครนีเซีย และฮาวาย
ในส่วนของความปลอดภัยของโรงงานนิวเคลียร์ และรถไฟหัวกระสุนนั้น ได้รับการออกแบบมาให้ปิดการทำงานโดยอัตโนมัติ เมื่อเกิดแผ่นดินไหว และอาคารหลายแห่งก็ผ่านการออกแบบมาเพื่อให้ทนรับแรงสั่นสะเทือนได้ รวมถึงใช้เหล็กและคอนกรีตอย่างหนา ที่ใช้งบประมาณมหาศาลในช่วงไม่กี่ทศวรรษที่ผ่านมา
ด้านสำนักงานพยากรณ์อากาศของไต้หวัน ได้เตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ชายฝั่งทางตะวันออกและตะวันออกเฉียงเหนือ ให้ระวังภัยสึนามิ จากผลพวงแผ่นดินไหวที่ญี่ปุ่น เช่นเดียวกับรัสเซีย ที่ออกประกาศเตือนภัยสึนามิ ที่หมู่เกาะคูริล พร้อมกับอพยพประชาชนส่วนฟิลิปปินส์ ได้เตือนประชาชนที่อาศัยในพื้นที่ชายฝั่งด้านตะวันออก แต่ยังไม่มีคำสั่งอพยพ แต่ให้ระวังภัยจากสึนามิ
ด้านสถานีโทรทัศน์ NHK รายงานว่า มีควันไฟสีดำพวยพุ่งขึ้นมาจากอาคาร โอไดบะ ชานกรุงโตเกียว ซึ่งแรงสั่นสะเทือนสามารถรู้สึกได้ถึงกรุงปักกิ่งของจีน มีการเตือนเรื่องคลื่นสูง 6 เมตร ที่จังหวัดมิยางิ นอกจากนี้ ยังแพร่ภาพสึนามิพัดถล่มพื้นที่ทางเหนือ ทำให้รถยนต์ รถบรรทุก บ้านและอาคารหลายหลัง ถูกกวาดลงน้ำเมืองโอนาฮามะ ใจจังหวัดฟูกุชิม่า
          (14 มี.ค.2554) สำนักงานข่าวต่างประเทศรายงานว่า ความคืบหน้ากรณีเกิดเหตุแผ่นดินไหวรุนแรงขนาด 8.9 ริกเตอร์ถล่มนอกชายฝั่งทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศญี่ปุ่น มีผู้เสียพุงกว่า 2,000 ราย
          มีรายงานว่า ยอดผู้เสียชีวิตเป็นทางการ 1,596 ราย ส่วนที่จังหวัดมิยากิยืนยันยอดผู้เสียชีวิต 643 ราย สำหรับยอดผู้สูญหายมีประมาณ 10,000 ราย
           ด้านนายเจษฎา กตะเวทิน รองอธิบดีกรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า ขณะนี้สถานทูตไทยประจำกรุงโตเกียว กำลังติดต่อคนไทยในญี่ปุ่น โดยมีคนไทยอยู่ใน จ.มิยากิ 250 คน ซึ่งเป็นจุดที่ได้รับผลกระทบจากสึนามิหนักที่สุด และในวันนี้เจ้าหน้าที่สถานทูตไทยร่วมกับสถานทูตอาเซียนจะเข้าไปในพื้นที่ เพื่อค้นหาคนที่ยังติดต่อไม่ได้ หลังจากติดต่อคนไทยได้เพียง 20 คน เนื่องจากการสื่อสารขัดข้อง
        ขณะเดียวกัน ยังได้ตั้งจุดให้ความช่วยเหลือคนไทยที่วัดปากน้ำ ซึ่งอยู่ในกรุงโตเกียว อย่างไรก็ตาม ยังไม่จำเป็นต้องจัดเเที่ยวบินไปรับ เพราะมีเที่ยวบินตามปกติ ยังสามารถเปิดให้บริการ แต่ทางกองทัพอากาศก็ได้เตรียมเครื่อง C-130 ไว้พร้อมแล้วเช่นกัน ส่วนอาหารและน้ำยังไม่ขาดแคลน เพราะในโตเกียวมีการเตรียมความพร้อมในเรื่องนี้ไว้อย่างดี
        นอกจากนี้ กระทรวงการต่างประเทศ ยังได้เปิดรับบริจาคอาหารแห้ง เครื่องกันหนาว ตั้งแต่เวลาประมาณ 08.00-16.00 น. ทั้งที่ ถ.ศรีอยุธยา และแจ้งวัฒนะ
   

       
               ( 15 มีนาคม 2554 ) สธ.เฝ้าระวังอาหารปนเปื้อนสารกัมมันตภาพรังสีจากญี่ปุ่นเข้าไทย


                                  

สธ.15 มี.ค.- สธ.เฝ้าระวังสารกัมมันตภาพรังสีที่ปนเปื้อนมากับอาหารจากญี่ปุ่นเข้าไทย เตือนประชาชนอย่าวิตกกังวล  เหตุการณ์โรงไฟฟ้านิวเคลียร์เพิ่งระเบิด ส่วนเรื่องสภาพอากาศไทยและญี่ปุ่นห่างไกลกัน ขอให้ติดตามข่าวสารใกล้ชิด และไม่จำเป็นต้องทานไอโอดีนเม็ดป้องกันเหมือนญี่ปุ่น เร่งประชุมหามาตรการเฝ้าระวังบ่ายวันนี้
นพ.ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงการเฝ้าระวังสารกัมมันตภาพรังสี ที่เกิดจากการระเบิดของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ในประเทศญี่ปุ่น ว่า ขณะนี้กระทรวงฯ จะร่วมมือกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.)  เฝ้าระวังสารกัมมันตภาพรังสีที่อาจหลุดรอดมาได้ โดยวิธีที่คาดว่าสารดังกล่าวจะเดินทางมาถึงประเทศไทย คือ จากภาวะอากาศ และอาหาร อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่ามาตรการเฝ้าระวังดังกล่าวที่จะเกิดขึ้นไม่ใช่เป็นการซ้ำเติมญี่ปุ่น แต่เพื่อความปลอดภัยและขอให้มั่นใจว่าญี่ปุ่นถือเป็นประเทศที่มีศักยภาพ และมีระบบดูแลความปลอดภัยของประชาชนอย่างดีเยี่ยมและมีการติดตามเฝ้าระวังมาโดยตลอด ขณะนี้ไม่ต้องการให้คนไทยวิตกกังวล ปลัด สธ.กล่าวต่อว่า ในส่วนของอาหารกระทรวงฯ ได้มีการเตรียมเฝ้าระวังการนำเข้าอาหารที่มาจากญี่ปุ่น โดยจะมีการตรวจสอบด้วยเครื่องมือพิเศษว่ามีการปนเปื้อนสารกัมมันตภาพรังสีหรือไม่ เพื่อความปลอดภัย เชื่อว่ากระบวนการส่งออกอาหารจากญี่ปุ่นขณะนี้ยังไม่มีการปนเปื้อนถึงไทย เพราะเหตุการณ์เพิ่งเกิด

ส่วนเรื่องสภาพอากาศ เนื่องจากญี่ปุ่นกับไทยอยู่ห่างไกลกัน สารกัมมันตภาพรังสีที่มีการกระจายในขณะนี้เชื่อว่ายังไม่ส่งผลอันตรายต่อสุขภาพอย่างร้ายแรง และขอให้มีการติดตามข่าวสารจากทางญี่ปุ่นเป็นระยะ ส่วนเรื่องการแจกไอโอดีนเม็ดให้กับประชาชนญี่ปุ่นเพื่อเป็นการป้องกันสารกัมมันตภาพรังสีนั้น นพ.ไพจิตร์ กล่าวว่า จะกระทำต่อเมื่อมีการตรวจวัดสภาพอากาศ และมีสารกัมมันตภาพรังสีที่เสี่ยงอันตรายต่อสุขภาพ ดังนั้น ประชาชนทั่วไปไม่จำเป็นต้องรับประทาน ส่วนสาเหตุเรื่องของการแจกไอโอดีนนั้น เนื่องจากร่างกายมีต่อมไทรอยด์ที่ทำหน้าที่ในการดักจับสารพิษ และไอโอดีน ซึ่งสารกัมมันตภาพรังสีมีส่วนผสมของไอโอดีน 131 ดังนั้นเมื่อต่อมไทรอยด์เจอกับสารกัมมันตภาพรังสีต่อมไทรอยด์จะไม่สามารถแยกออกได้ว่าอันไหนเป็นไอโอดีนธรรมชาติอันไหนเป็นไอโอดีนมีพิษ  ดังนั้น จำเป็นต้องมีการแจกเม็ดไอโอดีนให้รับประทานเพื่อทำให้ร่างกายรับสารไอโอดีนอิ่มตัว ไม่ไปดักจับไอโอดีนที่เป็นพิษเข้าสู่ร่างกาย

 
สำหรับประเทศไทยไอโอดีนเม็ด ปัจจุบันมีแจกให้หญิงตั้งครรภ์ทั่วไป เพื่อเป็นไอโอดีนเสริม จึงไม่ต้องวิตกกังวลว่าจะไอโอดีนเม็ดจะขาดแคลน แต่ย้ำว่าขณะนี้ประชาชนคนไทยไม่มีความจำเป็นต้องรับประทานเม็ดไอโอดีน ส่วนกลุ่มคณะแพทย์ที่เดินทางไปญี่ปุ่นเชื่อว่าน่าจะมีการนำไอโอดีนเม็ดติดตัวไปเช่นกัน
โดยบ่ายวันนี้ คณะแพทย์ที่เดินทางไปญี่ปุ่นจะโทรศัพท์รายงานผลกับ นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ รองปลัดกระทรวงฯ นอกจากนี้ กระทรวงฯ จะมีการประชุมหารือเรื่องมาตรการเฝ้าระวังอาหารปนเปื้อนสารกัมมันตภาพรังสีด้วย.-สำนักข่าวไทย

              (17 มีนาคม) รายงานของสำนักข่าวซินหัว ในครั้งนี้ ระบุว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติของญี่ปุ่น ได้มีการแจ้งปรับยอดจากการสรุป เมื่อช่วงเวลา 08.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น เป็นอัพเดทใหม่ ณ เวลา 10.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น ว่า มียอดผู้เสียชีวิต ทั้งสิ้น 5,178 ราย สูญหาย 8,606 ราย ทั้งนี้ รายงานยังระบุด้วยว่า มีผู้ได้รับความเดือดร้อนจากแผ่นดินไหว 9.0 ริกเตอร์ และสึนามิถล่มสูงถึง 380,000 คน จาก 8 เขตการปกครอง มีบ้านเรือน ประชาชนได้รับความเสียหายจากไฟไหม้ 100,300 หลังคาเรือน อย่างไรก็ตาม ยังมีการคาดการณ์ว่า ตัวเลขจะยังคงเพิ่มสูงขึ้นอีก เพราะว่ายังมีหลายพื้นที่ ยังไม่สามารถส่งทีมงานเข้าไปค้นหาได้


         (22 มีนาคม ) เหยื่อแผ่นดินไหว-สึนามิญี่ปุ่นพุ่ง21,911ราย

ยอดผู้เสียชีวิตจากแผ่นดินไหว-สึนามิ ใน 6 จังหวัดของญี่ปุ่น ได้รับการยืนยันเพิ่ม 8,649 ศพ สูญหาย 13,262 ราย ซึ่งนับเป็นจำนวนมากที่สุดจากภัยธรรมชาติของญี่ปุ่น นับตั้งแต่ปี 1923...
สำนักข่าวเกียวโดนิวส์ รายงานช่วงเช้าวันที่ 22 มี.ค. ถึงจำนวนผู้ประสบภัยแผ่นดินไหว-สึนามิ บริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือของญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 21,459 ราย โดยยอดผู้เสียชีวิตอย่างเป็นทางการ ล่าสุดได้รับการยืนยันแล้วจำนวน 8,805 ศพ ส่วนผู้สูญหายเพิ่มมากถึง 12,654 ราย จากทั้งหมด 6 จังหวัด ขณะที่สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานยอดผู้เสียชีวิต 8,649 ศพ สูญหาย 13,262 ราย ซึ่งนับเป็นจำนวนมากที่สุดจากภัยธรรมชาติของญี่ปุ่น นับตั้งแต่ปี 1923
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ทำการระบุอัตลักษณ์แล้วราว 4,080 ศพ ซึ่งจำนวน 2,990 ศพ เตรียมส่งกลับไปให้ครอบครัวประกอบพิธีทางศาสนาแล้ว

ส่วนตัวเลขผู้อยพยไปพำนักยังศูนย์ผู้ประสบภัยชั่วคราว มีประมาณ 320,000 ราย ซึ่งล่าสุดรวมผู้อยู่อาศัยใกล้กับโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ฟุกุชิมา ไดอิจิ ด้วย ภายหลังบริษัทโตเกียว อิเล็กทริก คัมปานี หรือ เทปโก ยอมรับว่าตรวจพบกัมมันตรังสีระดับ 5 ฟุ้งกระจายในอากาศ.



วันพฤหัสบดี ที่ 31 มีนาคม 2554  ญี่ปุ่นเร่งกำจัดสารกัมมันตรังสี


งัด2มาตรการใช้ผ้าพิเศษคลุมอาคารเตาปฏิกรณ์-ดูดสารพิษใส่เรือ ขณะที่ระดับกัมมันตรังสีในทะเลเกินกำหนด3พันเท่า
วันนี้ (30มี.ค.)สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น วันเดียวกันว่า สมเด็จพระจักรพรรรดิอากิฮิโต แห่งญี่ปุ่น พร้อมด้วยสมเด็จพระจักรพรรดินีมิชิโกะ เสด็จพระราชดำเนินเยือนโตเกียว บูโดกัน ซึ่งใช้เป็นศูนย์พักพิงชั่วคราวสำหรับผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวและสึนามิ ในกรุงโตเกียว ทั้งสองพระองค์ได้มีพระปฏิสันถารกับประชาชนผู้ประสบภัยภายในศูนย์พักพิงแห่งนี้ราว 300 คน ส่วนใหญ่จะมาจากจังหวัดฟูกูชิมะ และต้องอพยพออกมาอยู่ที่กรุงโตเกียวก่อน หลังประกาศเตือนเรื่องการแพร่กระจายของสารกัมมันตรังสีจากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกูชิมา
โฆษกบริษัทโตเกียว อีเลคตริค เพาเวอร์ จำกัด (เทปโก) ผู้ดูแลโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ฟูกูชิมา ไดอิชิ กล่าวว่า ระดับของสารกัมมันตรังสี ไอโอดีน-131 ซึ่งรั่วไหลออกมาจากโรงไฟฟ้า ไหลลงสู่ทะเลใกล้โรงไฟฟ้านั้นสูงกว่า 3,355 เท่าตามที่กฎหมายกำหนด จากการตรวจวัดเมื่อวันที่ 29 มี.ค.ที่ผ่านมา ขณะที่เจ้าหน้าที่สำนักงานความปลอดภัยด้านพลังงานนิวเคลียร์ของญี่ปุ่น เปิดเผยว่า ยังไม่ทราบสาเหตุว่าทำไมสารกัมมันตรังสีถึงได้พุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จะต้องรีบหาสาเหตุและหาทางหยุดยั้งให้ได้
ส่วนหนังสือพิมพ์อาซาฮี ชิมบุน ของญี่ปุ่นรายงานว่า ญี่ปุ่นกำลังพิจารณาที่จะหาทางครอบอาคารเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ที่โรงไฟฟ้าฟูกูชิมา ด้วยใช้ผ้าทอชนิดพิเศษ เพื่อหาทางลดการฟุ้งกระจายของสารกัมมันตรังสี โดยเรื่องนี้นายยูคิโอะ เอดาโนะ เลขาธิการคณะรัฐมนตรีปฏิบัติหน้าที่โฆษกรัฐบาล แถลงว่า รัฐบาลยังไม่อาจปฏิเสธ หรือยืนยันเรื่องนี้ แต่ผู้นำญี่ปุ่นและผู้เชี่ยวชาญได้พิจารณาความเป็นไปได้ในทุกประเด็น รวมทั้งที่ปรากฏเป็นข่าวตามสื่อต่างๆ หนึ่งในแผนก็คือ การหาทางครอบอาคารเตาปฏิกรณ์หมายเลข 1, 3 และ 4 ด้วยผ้าทอชนิดพิเศษ เพื่อคลุมหลังคาและกำแพงที่ได้รับความเสียหาย ส่วนจะเป็นผ้าแบบใดนั้น ยังไม่ทราบแน่ชัด นอกจากนี้ยังพิจารณาที่จะติดตั้งเครื่องกรองอากาศในตัวอาคาร เพื่อหาทางระบายความดันของแก๊สในตัวอาคาร ส่วนอีกแผนหนึ่งคือ นำเรือบรรทุกน้ำมันแบบเปล่าๆเอาไปจอดไว้ที่บ่อพักน้ำด้านนอกของเตาปฏิกรณ์หมายเลข 2 ซึ่งมีน้ำปนเปื้อนสารกัมมันตรังสีท่วมชั้นใต้ดินของอาคารกังหันที่อยู่ติดกัน และดูดน้ำปนเปื้อนดังกล่าวมาไว้ในเรือบรรทุกน้ำมัน
ด้านหุ้นของบริษัทโตเกียว อีเลคตริค เพาเวอร์ จำกัด (เทปโก) ปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยตกลงไปร้อยละ 17.66 หรือ 100 เยน ปิดที่ราคา 466 เยน เมื่อวันพุธ เพราะข่าวการรั่วไหลของสารกัมมันตรังสีจากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกูชิมา บริษัทเทปโกยังแถลงด้วยว่า นายมาซาทาคะ ชิมิซึ วัย 66 ปี ประธานบริษัทเทปโก ได้ล้มป่วยลงอีกครั้งจึงถูกนำส่งโรงพยาบาลเมื่อคืนวันอังคารที่ผ่านมา ก่อนหน้านี้ นายชิมิซึเคยมีอาการป่วยของโรคความดันโลหิตสูง และอาการวิงเวียนศีรษะ เดิมมีกำหนดจะเปิดแถลงข่าวในวันพุธ แต่ก็ต้องเลื่อนออกไปเพราะป่วยเข้าโรงพยาบาล
นายยูคิโนบุ โอคามุระ หัวหน้าศูนย์วิจัยรอยเลื่อนของเปลือกโลกและแผ่นดินไหวของญี่ปุ่น เปิดเผยว่า เคยแจ้งเตือนไปตั้งแต่ต้นปี 2552 แล้วว่า โรงไฟฟ้าฟูกูชิมาของบริษัทเทปโก ซึ่งตั้งอยู่บริเวณชายฝั่งทะเลด้านทิศตะวันออกเฉียงเหนือของญี่ปุ่นนั้น อาจจะถูกแผ่นดินไหวและคลื่นสึนามิพัดถล่มเข้าเมื่อใดก็ได้ ทางผู้ดูแลโรงไฟฟ้านิวเคลียร์จะต้องเตรียมการป้องกันไว้รับมือกับภัยธรรมชาติที่รุนแรงที่สุด ซึ่งนานๆจะเกิดขึ้นมาสักครั้ง  ขณะที่กระทรวงคุ้มครองสิ่งแวดล้อมของจีน แถลงว่า มีอีกหลายพื้นที่ในประเทศจีนซึ่งตรวจพบระดับของสารกัมมันตรังสีแต่ต่ำมาก สันนิษฐานว่าลอยฟุ้งมาจากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกูชิมาของญี่ปุ่น แต่ยังไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ จากเดิมที่ตรวจพบสารกัมมันตรังสี ไอโอดีน ในภาคตะวันออก และ ตะวันออกเฉียงใต้ โดยแถลงการณ์ฉบับใหม่ของกระทรวงคุ้มครองสิ่งแวดล้อมระบุว่า ยังพบอีกหลายพื้นที่ เช่น กรุงปักกิ่ง มณฑลทางภาคเหนืออย่าง เหอเป่ย์ เหอหนาน ชานซี และ ชานตุง เป็นต้น



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น